เทคนิคการเลือกซื้อสมาร์ทโฟร

ปัจจุบันสมาร์ทโฟนแอนดรอยนั้นมีมากครับ มีหลากหลายรุ่นหลากหลายแบบ หลากหลายราคา ซึ่งข้อดีของมันคือทำให้มีตัวเลือกให้เลือกซื้อมากมาย ปัญหาคือ เราจะเลือกแบบไหนให้ตรงกับการใช้งานของเรามากที่สุด หรือตัวไหน ที่เราชอบเราโดนใจ แต่สเปกมันเหมาะกับเรารึป่าว มาดูกันเลยครับ


1. หน้าจอ

  หน้าจอบนสมาร์ทโฟนนั้น ตอนนี้เรียกว่าเป็นตัวเลือกแรกสำหรับหลายๆคนเลยนะครับ ขนาดของจอนั้นก็มีหลากหลายแบบครับ ตั้งแต่ 2.8 นิ้ว ไปจนถึง 4.7 นิ้วในสมาร์ทโฟน และ 5 ถึง 5.5 นิ้วสำหรับ โฟนเล็ต และ 7 ถึง 10.1 นิ้ว สำหรับแท็บเล็ตครับ มันยังไม่จบแค่นั้นครับ เราต้องดูด้วยว่า จอขนาดที่เราต้องการนั้นเน้นกว้างหรือเน้นยาว ด้วยการดูอัตราส่วน ถ้าชอบแบบกว้างก็จะเป็นข้อดีในการพิมพ์และเหมาะกับคนนิ้วใหญ่ แต่ถ้าเน้นจอยาวก็ได้เน้นด้านมัลติมีเดียและการเล่นเกมที่สะดวกครับ


  2.ความแข็งของหน้าจอ

   สมาร์ท โฟนในปัจจุบันนั้นมีราคาสูง และมีความบาง + ดีไซร์ที่สวยงาม เพราะฉะนั้น เราเสียเงินซื้อมันมาก็ต้องดูแลให้ดีเป็นพิเศษ แต่ปัญหาคือบางครั้งเราอาจจะไม่ได้ระมัดระวังมากเท่าที่ควร หรือไม่ว่างพอที่จะหาอะไรมาป้องกันสมาร์ทโฟนของเรา แต่ดีที่ปัจจุบันสมาร์ทโฟนหันมาใช้เทคโนโลยีกระจกจอกันรอยขีดข่วน เพราะถึงแม้เราจะไม่ไปติดฟิลม์ที่ร้าน สมาร์ทโฟนตัวเก่งของคุณก็จะมีคุณสมบัติที่ทนทานต่อรอยนานาชนิด แต่ถ้าไม่ไว้วางใจก็ไปติดฟิลม์ก็ได้นะครับ 

3.  User Interface (UI) หรือ Sense

   แต่ ละค่ายที่ผลิตสมาร์ทโฟนแอนดรอยหลักๆเลยคือ ASUS Acer HTC Samsung LG Sony Motorola OPPO Huawei ซึ่งแต่ละค่ายนั้นจะมีจุดเด่นที่แตกต่างกันออกไป แต่ที่แน่ๆเลยก็คือ UI หรือ Sense ที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง มันไม่ได้แตกต่างกันที่ความสวยงามนะครับ มันยังรวมไปถึงการใช้งานของตัวเครื่องเกือบทั้งหมด บาง UI ทำให้การใช้งานง่ายขึ้น เครื่องเร็วขึ้น เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้เครื่องมากขึ้น และมีลูกเล่นที่ไม่เหมือนใครในสมาร์ทโฟนของค่ายนั้นๆ ซึ่งใครชอบแบบไหนก็แล้วแต่สไตล์เลยครับ ถึงแม้ว่าปัจจุบันจะมี Launcher ที่จะปรับแต่งให้สมาร์ทโฟนของคุณสวยและมีให้เลือกมากมาย แต่ก็ครอบ UI ของคุณอีกที มาดูกันครับว่า UI ของแต่ละค่ายเป็นยังไงครับ


4. OSหรือระบบปฎิบัติการ

    นี่ เป็นหัวใจสำคัญที่สุดในการเลือกซื้อสมาร์ทโฟน คุณต้องรู้ก่อนว่าระบบไหนตอบโจทย์คุณได้ดีที่สุด ศึกษาวิธีใช้ด้วยการดูรีวิวบนอินเตอร์เน็ตหรือดูวิดิโอจากยูทูป การไปเล่นของคนรู้จักหรือไปลองเล่นที่ร้านแล้วให้พนักงานแนะนำเลยก็ได้ครับ คนแต่ละคนไม่เหมือนกันนะครับ เพราะฉะนั้นก็จะชอบอะไรที่แตกต่างกัน และการตอบโจทย์ของระบบปฏิบัติการที่แตกต่างกัน เน้นแชต ก็หนักไปทาง BB เน้นมัลติมีเดียก็ไปทาง IOS แต่ถ้าเน้นมัลติมีเดียและการแชร์ที่ง่ายดายก็ Android หากชอบแบบไหนก็ศึกษาตัวนั้นให้ดีก่อนที่จะซื้อ หากซื้อมาเล่นไม่เป็นมันก็จะยุ่ง แต่นั่นไม่ใช่ปัญหาครับ เพราะเล่นไปสักพักเดี๋ยวก็เป็น แต่ประเด็นคือ ซื้อมาแล้วคุณได้ใช้ประโยชน์จากมันมากน้อยแค่ไหนครับ 

 5.หากหนักไปทางแอนดรอยดูทางนี้

     แน่นอนว่าถ้าพูดถึงระบบปฏิบัติการเกินครึ่งของผู้อ่านจะนึกถึง Android เป็นอันดับแรก แต่เนื่องจากตลาดในปัจจุบันมีแอนดรอยโฟนเยอะมาก ทำให้เรามีตัวเลือกเยอะ ซึ่งในบรรดาสมาร์ทโฟนแอนดรอยทั้งหมดนั้นจะมีเวอร์ชั่นที่แตกต่างกันไป ตั้ง 1.6 2.0 2.1 2.2 2.3 3.0 3.2 4.0 แน่นอนว่าหลายๆเครื่องสมาร์ทที่จะอัพเป็นเวอร์ชั่นล่าสุดได้ แต่ถ้ารุ่นที่เราอยากได้ดันอัพเป็นเวอร์ชั่นล่าสุดไม่ได้ ผมจะพาไปดูประวัติแอนดรอยกันครับ

6.สเปกเครื่อง

    นี่ ก็เป็นอีกสิ่งที่เราต้องดูต้องศึกษาก่อนซื้อสมาร์ทโฟนครับ เพราะถ้าเราอยากได้สมาร์ทโฟนที่แรง เร็ว เราก็ต้องเลือกสมาร์ทโฟนที่มีสเปกสูงๆ อันประกอบไปด้วย Ram CPU และอีกหลายๆองค์ประกอบครับ เพราะแอนดรอยนั้นมีหลากหลายปัจจัยที่ทำให้เครื่องแรง ไม่ว่าจะเป็น UI ที่ใช้ จำนวนแอปที่มีในเครื่อง มีส่วนหมดครับ อยากได้เครื่องแรงก็ต้องเลือก CPU ที่แรงเร็ว Single Core (1 คอร์ประมวลผล) Dual Core (2 คอร์ช่วยกันประมวลผล) และ Quad Core (4 สมอง 2มือ 555) แต่ปัยหาคือ CPU นั้นมีหลากหลายยี่ห้อ แต่ละยี่ห้อนั้นก็มีความเร็วและ GPU ที่แตกต่างกันด้วย

7.รับบสั่งการด้วยเสียง

  หรือ ชื่อเป็นทางการคือ Intelligent Personal Assistant เป็นระบบเก่าที่เอามาเล่าใหม่ พร้อมใส่ลูกเล่นสุดล้ำ ทำให้ปัจจุบันคนสนใจและตื่นตัวกับระบบนี้กันมากครับ แต่ข้อจำกัดคือ ถึงตอนนี้ระบบสั่งงานด้วยเสียงจะมีหลากหลายตัว ซึ่งแต่ละตัวจะถูกฝั่งอยู่ในระบบปฏิบัติการนั้นๆเลย ทำให้ไม่สามารถย้ายไปลงเครื่องอื่นได้ อยากใช้อันไหนต้องซื้อสมาร์ทโฟนระบบนั้นๆ ถึงแม้ว่าจะมีแอปเกี่ยวกับพวก Intelligent Personal Assistant ออกมาแต่ก็ไม่สู้กับตัวที่ติดมากับ OS 

8.ล้ำยุคไปกับเทคโนโลยี Bluetooth 3.0 และ NFC
     2 ระบบนี้เป็นระบบที่ใหม่(ก็ไม่ใหม่เท่าไหร่นะ) แต่ความสามารถของมันนั้นเยอะและล้ำสุดๆครับ Bluetooth เป็นเทคโนโลยีที่มีมานานจนมาถึงเวอร์ชันปัจจุบัน คือ 3.0 ซึ่งเพิ่มความสามารถที่หลากหลายขึ้น ส่วนเจ้า NFC เป็นน้องใหม่ที่มีมาได้สักพักใหญ่ๆละ แต่พึ่งจะมาดังในช่วงต้นปี 2012 ที่ผ่านมา NFC ไม่ได้มาแทนที่เทคโนโลยี Bluetooth แต่มาเสริมช่องว่างที่ Bluetooth ไม่มี Bluetooth เค้าก็ยังคงรักษาการส่งไฟล์คุณภาพอยู่ แต่ NFC ก็จะเน้นไปที่การใช้งานเล็กๆน้อยๆ แต่รวดเร็ว ซึ่งปัจจุบันสมาร์ทโฟนใหม่ๆก็รองรับทั้ง 2 เทคโนโลยีนี้ อยู่ที่ว่าคุณจะได้ใช้ความสามารถของ 2 เทคโนโลยีนี้รึป่าว

9.กล้อง

กล้อง บนสมาร์ทโฟนในปัจจุบันมีความละเอียดสูงมากครับ ตั้งแต่ VGA 1.6 ไปจนถึง 12.1 ล้านพิกเซลหากเราไปเจอสมาร์ทโฟนที่อยากได้
แต่ดันมีความละเอียดกล้องเท่ากัน เราลองมามองในส่วนของลูกเล่นกล้องดูครับ ว่ามีอะไรที่แตกต่างกันบ้าง 

10.ราคาและความคุ้มค่า
   มา ถึงข้อสุดท้ายคะ หากคุรเลือกสมาร์ทโฟนที่ชอบได้แล้วก่อนซื้อก็ต้องมาเช็คราคากันก่อนครับ ว่าเหมาะสมกับสเปกมั้ย หรือว่ามีรุ่นที่สเปกเหมือนกัน ไกล้เคียงกัน แต่มีราคาที่ถูกกว่า อีกวิธีคือ เช็คศูนย์ต่างๆว่าราคาเครื่องเป็นยังไง มีโปรโมชันของแถมอะไรมั้ย เราอาจจะเลือกไปร้านหรือศูนย์ที่ถูกที่สุดก็ได้ครับ แต่ถ้าไม่ไหวจริงๆต้องการมากแต่งบไม่ถึง จะลองหันไปเล่นสมาร์ทโฟนมือ 2 ก็ได้นะคะ







CR.https://tdo2029.wordpress.com/





ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้